ปัญหาที่ต้องศึกษาเพื่อความสมบูรณ์แบบของงานฉาบ และความเรียบเนียน ที่ไม่ว่าใครก็จัดการได้!
การฉาบปูนสำหรับพื้นผิวภายในบ้าน หรืออาคาร เป็นขั้นตอนที่ต้องการความละเอียด และความใส่ใจมาก เนื่องจากเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะบ่งบอกว่าบ้านจะออกมาสมบูรณ์แบบในระดับใด เพราะถึงจะตกแต่งบ้านด้วยความสวยงาม และเต็มไปด้วยสไตล์ แต่งานผนัง หรือส่วนอื่นๆ ภายในบ้าน หากมีลักษณะไม่เรียบเนียน ไม่เป๊ะ หรือเป็นรอยต่างๆ ที่บ่งบอกว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น นั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้าน หรืออาคารของคุณมีลักษณะที่ไม่สมบูรณ์แบบในแบบที่บ้าน หรืออาคารที่เพิ่งสร้าง หรือเพิ่งปรับปรุงควรจะเป็นนั่นเอง
ปัญหาส่วนใหญ่ของการฉาบภายใน เต็มไปด้วยหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
1. เนื้อปูนไม่สามารถจัดการกับปัญหารอยแตกลายงาได้อย่างอยู่หมัด
2. ปูนซีเมนต์ส่วนใหญ่ มีค่าการหดตัวสูง จึงมีโอกาสเกิดรอยร้าวได้ง่าย
3. ความสามารถในการยึดเกาะสีต่ำ ทำให้สีหลุดลอกง่ายเมื่อเวลาผ่านไป และเนื่องจากปูนฉาบส่วนใหญ่ต้องทาสีรองพื้น จึงทำให้เปลืองค่าสีรองพื้นและเสียเวลาการทำงาน
4. ฉาบไม่ลื่น ทำให้นอกจากจะเปลืองแรงแล้ว ยังฉาบพื้นที่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
5. ค่าการนำความร้อนสูง (ซีเมนต์)
อีกทั้งในปัจจุบันยังมีการก่อสร้างมากมายทั้งรูปแบบที่อยู่อาศัย และอาคาร ซึ่งด้วยเหตุผลทางด้านงบประมาณ ความรวดเร็วในการก่อสร้าง การฉาบหนาด้วยซีเมนต์ผสมเสร็จจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่กลับมีปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น แนวโน้มที่จะแตกร้าว และหลุดร่อนในภายหลัง
เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากยิปรอค นั่นคือ ยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายใน และปูนยิปโค้ท โททอล ปูนฉาบบางหนาภายในคู่ฉาบสุดพิเศษโดดเด่นทั้งการเป็น “ปูนกันร้าว” และ “ปูนกันร้อน” มาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้น เสร็จงานเร็ว และให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
ส่วนสำคัญอีกอย่าง คือความสามารถที่ใช้ได้กับทุกพื้นผิวผนัง ไม่ว่าจะเป็นผนังอิฐมวลเบาที่ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องรอยแตกร้าว รวมถึงผนังคอนกรีต ที่เรื่องยึดเกาะยังเป็นสิ่งกวนใจผู้ใช้ แต่คู่ฉาบสุดพิเศษของเราคู่นี้ จะมาช่วยคุณทั้งเรื่อง ลดการเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในขั้นตอนต่างๆ
------ภาพเปรียบเทียบความเรียบเนียนระหว่างปูนทั่วไปกับปูนยิปรอค---------
เปรียบเทียบระหว่าง และปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายในกับซีเมนต์ฉาบผสมเสร็จทั่วไป
1. ปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายใน 1 ถุง ซึ่งหนัก 20 กิโลกรัม จะสามารถฉาบพื้นที่ได้มากกว่า 2.5 เท่า หรือเทียบเท่ากับการใช้ปูนซีเมนต์ผสมเสร็จถึง 50 กิโลกรัม
2. เทียบกับการทำฉาบผนังด้วยการใช้ซีเมนต์ผสมเสร็จทั่วๆ ไป ซึ่งมากไปด้วยขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น
- รดน้ำผนังก่อนฉาบ
- ฉาบให้เป็นชั้นๆ จนได้ความหนาที่ต้องการ
- ตีน้ำปั่นหน้าเพื่อเติมน้ำให้กับผิวซีเมนต์ อันมาจากสาเหตุค่าอุ้มน้ำต่ำ เนื่องจากเกิดการหดตัว และสูญเสียน้ำตลอดเวลา
- ลงฟองอีกครั้ง เพื่อปรับพื้นผิว
– ที่ต้องทิ้งผนังให้เซ็ตตัวยอย่างน้อยถึง 14 วัน จึงจะสามารถทำงานต่อไปได้
ซึ่งปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายในจะสามารถตัดขั้นตอนเหล่านี้ออกไปได้ทั้งหมด เนื่องจากมีค่าอุ้มน้ำถึง 97 เปอร์เซ็น ค่าหดตัวน้อยกว่าถึง 3 เท่าตัว หมดความกังวลเรื่องความแตกร้าว และแถมฟังก์ชั่นประหยัดไฟไปอีกอย่าง เนื่องจากผนังจะไม่อมความร้อน เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศเย็นเร็วขึ้น
3. ปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายใน จะใช้งานได้ง่าย และสามารถจบงานได้เร็วกว่าถึง 2.5 เท่า โดยงานฉาบซีเมนต์ได้ปริมาณงาน 8 – 10 ตารางเมตร ต่อคน ต่อวัน ส่วนฉาบด้วยปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายใน จะทำงานได้ 25 ตารางเมตร ต่อคน ต่อวัน
สำหรับการฉาบด้วยปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายในจะเริ่มจากการที่ช่างจับปุ่ม หรือตอกตะปูเพื่อจัดการแนวระดับผนังก่อน หลังจากทิ้งให้แห้งสามารถทำการฉาบต่อเนื่องบนผนังจนได้ระดับที่ต้องการได้ทันที โดยสามารถฉาบเพื่อความหนาได้ตั้งแต่ 0.5เซ็นติเมตร ไปถึง 5 เซ็นติเมตร ก่อนปิดท้ายด้วยสามเหลี่ยมปาดปูนเพื่อปรับระนาบผนังให้ได้ระดับ
ขั้นตอนต่อมาคือการทิ้งไว้ แต่สำหรับปูนยิปรอค โปรโค้ท ปูนฉาบหนาภายในช่างสามารถทิ้งไว้เพียงครึ่งวันเท่านั้น ก็สามารถจัดการขั้นตอนการฉาบบางสกิมโค้ทได้ทันที โดยในส่วนนี้จะมีจุดประสงค์เพื่อผิวหนังที่เรียบเนียนมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย
การใช้ปูนยิปโค้ท โททอล ปูนฉาบบางหนาภายใน จะทำการฉาบที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ฉาบลื่น เบาแรง หน้างานสะอาด เนื่องจากฝุ่นฝงจากการฉาบแต่งมีน้อย ปกปิดรอยร้าวได้ดีเยี่ยม มาพร้อมกับความสวยงามแสนสมบูรณ์แบบ ด้วยเนื้อปูนสีขาวนวลเนียน และไม่มีค่าเป็นด่าง
ปูนยิปโค้ท โททอล ปูนฉาบบางหนาภายใน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับพื้นผิวผนังหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผนังคอนกรีต ผนังปูนฉาบทั่วไป หรือแม้แต่แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ และแผ่นยิปซัม เป็นตัวช่วยที่ทำให้ผนังเนียนสวย ไร้รอยต่อ และเป็นตัวเลือกที่ดีเรื่องงบประมาณเพราะทำให้ประหยัดสีทับหน้ายิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากปูนฉาบบางทั่วๆ ไป ที่นอกจากจะเกิดฝุ่นจากจากฉาบแต่งมาก ทำให้หน้างานสกปรก มีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นมาจากค่าหดตัวสูงที่ต่างกันแล้ว ยังต้องเพิ่มงบประมาณในการทาสีรองพื้น ก่อนทาสีจริงทับหน้าอีกด้วย
เมื่อเห็นประสิทธิภาพจากการเปรียบเทียบข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่า ปูนฉาบยิปรอค จะเป็นปูนที่มีจุดเด่นทั้งในเรื่องการใช้งานที่ง่าย งานที่เสร็จไว้ขึ้น ความประหยัด และยิ่งมาพร้อมกันแบบแพคคู่แบบนี้ทั้งกันร้าว และกันร้อน จึงจัดเป็นนวัตกรรมที่เกิดมาเพื่อความเรียบเนียน อย่างสมบูรณ์แบบ ในแบบที่ไม่ว่าใครๆ ก็ใฝ่ฝันถึงแน่นอน